ในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้มีการนำเอากระเบื้องพอร์ทเลน มาใช้ในงานตกแต่งอาคารมากมาย โดยเฉพาะใช้เป็นวัสดุปูพื้น ด้วยคุณสมบัติที่ดูเงางาม สะอาด ทนทานต่อสารเคมีประเภทกรด ด่าง ซึ่งต่างจากหินอ่อนธรรมชาติ แต่ด้วยโครงสร้างบนผิวหน้าที่เป็นคริสตัลเมื่อนำมาขยายด้วยกล้องไมโครสโคฟแล้วจะเห็นว่า มีรูพรุนอยู่มาก และด้วยโครงสร้างดังกล่าวทำให้เกิดป้ญหาคราบสกปรกฝังแน่นให้กับกระเบื้องชนิดนี้
คราบสกปรกที่เกิดขึ้นเกิดไม่สามารถขัดล้างออกด้วยรูปแบบการทำความสะอาดด้วยน้ำยาถูพื้นประจำวันทั่วไป แต่สามารถขจัดคราบดังกล่าวด้วยน้ำยา PH Cleaner พร้อมกับผงดูดซับสิ่งสกปรก Poultice หลังจากนั้นแนะนำให้มีการปั่นเงาพื้นด้วยระบบ คลิสตัลไชน์
ระบบคลิสตัลไชน์ เป็นกระบวนการสร้างผลึกประกายใส ซึ่งมีส่วนประกอบของ ฟลูโอโรคาร์บอน แม็กเนเซียม ที่จะช่วยสร้างผลึกที่แข็งแกร่งปกป้องพื้นผิวแทรกซึมเข้าสู่รอยพรุน และผลึกในเนื้อผิวหน้า นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติป้องกันการเกิดรอยด่างและการลื่น Anti-Slip
คลิสตัลไชน์ ทนต่อสภาพอากาศร้อนและสภาวะกลางแจ้ง หลังจากพื้นผิวผลึกประกายใสถูกสร้างขึ้นแล้ว จะเกิดปฏิกริยา คัลซิค ไออ้อน The Culcic Ions เพื่อทำให้พื้นผิวไม่ละลาย พื้นผิวจะทนต่อสภาพความแปรปรวนของดินฟ้าอากาศต่างๆ เช่น ฝน โคลน ความเย็น ความร้อน ฝุ่น ทราย มูลนก และมูลสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่มักจะทำให้เกิดรอยด่างเปื้อนบนพื้นผิว
ส่วนประกอบทางเคมีของระบบ คริสตัลไชน์ ให้ความทนต่อรังสี UV อินฟาเรด จากดวงอาทิตย์ เพราะธรรมชาติความเป็นอนินทรีย์และโครงสร้างของผลึกใสที่มีความเสถียรต่อแสง จะปกป้องพื้นผิวไม่ให้เกิดรอยด่างคล้ำ หรือด่างเหลือง ซึ่งปรากฎกับพื้นผิวที่ถูกเคลือบด้วยขี้ผึ้ง Wax โพลิเมอร์ และสารที่ละลายได้
คริสตัลไชน์ จึงเป็นระบบการดูแลพื้นผิวแบบใหม่ที่ตอบสนองความต้องการ และแก้ปัญหาความวุ่นวายที่เกิดจากระบบการดูพื้นผิวแบบเก่า สามารถปกป้องพื้นผิววัสดุ อาทิ กระเบื้องพอร์ทเลน แกรนิตโต้ คริสตัลไวด์ รวมถึงหินแกรนิตธรรมชาติ
|