Geneva 2015 A Dozen Outstanding
เดินดูเรือนเวลาถึงสวิสส์
บัตรหลายหมื่นใบถูกส่งไปทั่วโลกเป็นเทียบเชิญเพื่อเข้าร่วมชมงาน Salon
International de la Haute Horlogerie หรือ SIHH เหมือนเช่นทุกปี แต่สำหรับปีนี้สำคัญเป็นพิเศษ เพราะเป็นการจัดงานครั้งที่ 25 หรือเรียกว่าเป็นการจัดงานอย่างต่อเนื่องมาครบ 1 ไตรมาสของศตวรรษนั่นเอง
นับจากปีแรกของงาน SIHH ที่จัดขึ้นในปี 1991 และมีแบรนด์นาฬิกาขั้นสูงเข้าร่วมเพียง 5 แบรนด์ บนพื้นที่จัดแสดงงานเพียง 4,500 ตารางเมตร กาลเวลาผ่านมา 25 ปี งาน SIHH 2015 มีนาฬิกาแบรนด์ชั้นนำระดับโลกเข้าร่วมงานมากถึง 16 แบรนด์ พื้นที่จัดแสดงงานก็กว้างยวางถึง 40,000 ตารางเมตร โดยงานแสดงในปีนี้มีขึ้นตั้งแต่วันที่ 19-23 มกราคมที่ผ่านมา
ในปีนี้มีบทสรุปออกมาว่า จำนวนผู้เข้าร่วมงานมากถึง 14,500 คน และมีนักข่าวมากถึง 1,200 คน ซึ่งทุกคนล้วนได้รับเทียบเชิญเข้าร่วมงานอย่างเป็นทางการที่เน้นย้ำเรื่องบัตรเชิญเป็นพิเศษ เพราะงานนี้ไม่ใช่งานเปิดที่ใครก็ได้จะสามารถเข้าร่วม หากทุกแบรนด์ที่ร่วมจัดแสดงงานจะต้องคัดเลือกผู้ที่จะเข้าร่วมชมงานร่วมกับคณะกรรมการด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สื่อย่าว มีการพิจารณาค่อนข้างเข้มงวด ภายใต้เงื่อนไยในหลายเรื่องแต่ก็ต้องยอมรับว่า เป็นงานไพรเวทที่หรูหราสมคำการรอบัตรเทียบเชิญเป็นอย่างยิ่ง
ภายในพื้นที่จัดงานที่หรูหราในสไตล์คลาสสิก คงโทนสีเหลืองนวลราวเปลือกไข่ที่ใช้มาโดยตลอด แต่ละแบรนด์จะไต้พื้นที่จัดแสดงแตกต่างกันไป และทุกแบรนด์จะนำอัลักษณ์ รูปแบบ ดีเอ็นเอของแบรนด์มาเป็นแนวทางในการตกแต่งพื้นที่ ซึ่งเราจะเรียกกันว่า ซาลอง (Salon) แทนที่คำว่ บู้ธ เหมือนงานแสดงทั่วไป
เพราะแต่ละพื้นที่นั้นเปรียบเสมือนห้องโถงของแบรนต์ซึ่งจัดตกแต่งไว้เพื่อต้อนรับแยกที่มาชมผลงานที่ประดุจงานศิลปะแห่งเวลาชั้นสูง ผลงานที่แม้ว่าเห็นแล้วจะยื่นชอบและอยากได้ ก็ไม่สามารถซื้อได้ภายในงาน ได้เพียงแต่ยื่นชมเท่านั้น
ตัวอย่างเช่นในซาลองของ Cartier หนึ่งในแบรนด์หลักของงาน SIHH ซึ่งได้พื้นที่จัดแสดงงาน 2 ฝั่ง แบ่งเป็นขาลองสำหรับนำเสนอผลงานเครื่องประดับคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุดฝั่งหนึ่ง ส่วนอีกฝั่งเป็นผลงานเครื่องบอกเวลาสุดหรู บรรยากาศสุดคลาสสิกในโทนสีแดง-ดำข่มความสว่างของพื้นที่ภายนอกอย่างขัดเจน และสะท้อนความเป็นแบรนด์คาร์เทียร์ได้อย่างชัดตาเช่นเดียวกันนอกจากบรรยากาศจะหรูหราแล้ว บรรดาผลงานใหม่ทั้งเครื่องประดับและนาฬิกาที่เต็มไปด้วยฝีมือย่างเชิงศิลป์ไปจนถึงขับซ้อนสูงก็ยวนละลานตาอย่างยิ่งหรือถ้าแวะมาที่ซาลองของ IWC ปีนี้เฉลิมฉลองวาระครบรอบ 75 ปีของคอลเลกชั่นไอคอนอย่าง Portugieser นอกจากจะออกแบบนาฬิกาเรือนมหืมาตัวเด่นของคอลเลกชั่นนี้ประดับเด่นกลางซาลองแล้วก็ยังสร้างวิวทิวทัศนให้เสมือนอยู่ภายในเมืองยาฟฟ้ฮาวเช่น ดินแดนเกิดของแบรนด์ด้วย
ส่วน Roger Dubuis แบรนด์อายุน้อยแต่สร้างผลงานได้เฉียบขาด ปีนี้นำซึมของแมงมุมมาตกแต่งพื้นที่ภายในด้วยบรรยากาศออกจะลึกลับด้วยโทนสียรึมแดงดำ พร้อมกับอุปกรณ์พิเศษที่ชวนให้ผู้เข้าชมซาลองได้ท่องไปในดินแดน 3 มิติด้วย
Parmigiani Fleurier ปีนี้สร้างผลงานพิเศษฉลองครบรอบ 10 ปีความสัมพันธ์กับ Bugatti แบรนด์รถสปอร์ตหรู ด้วย Bugatti Type 370 Anniversary ที่มาพร้อมกลไกแนวตั้งกับหน้าปัดที่แม้ขับรถก็ดูเวลาได้ง่ายๆ รวมไปถึงผลงานนาฬิกาตั้งโต๊ะสุดพิเศษร่วมกับแบรนด์งานเครื่องแก้วชั้นสูงอย่าง Lalique ที่ตั้งเด่นกลางขาลองอวดความยอดเยี่ยมของการผสานงานทำเครื่องแก้วและกลไกจักรกลขับซ้อนได้อย่างลงตัว
Ralph Lauren ตแต่งซาลองในแนวคลาสสิกผสานกับกลิ่นอายของขาฟารี ที่สะท้อนรูปลักษณ์ของ
Richard Mille แบรนด์อิสระที่เข้าร่วมจัดแสดงงานใน SIHH นอกจากจะสร้างผลงานตื่นตาตื่นใจกับดอกไม้แสนสวยที่แย้มกลีบอวดความขับช้อนของทูร์บิญองได้แล้ว ก็ยังตกแต่งชาลองในสไตล์สวนดอกไม้ที่มีนางแบบสาวแต่งชุดดอกไม้หรูหราคอยต้อนรับเช่นเดียวกับซึมของ Van Cleef & Arpels ที่ตกแต่งบรรยากาศในแบบสวนดอกไม้ เพราะนำเอาภาษาดอกไม้มาถ่ายทอดผ่านนาฬิกาคอลเลกชั่นเด่นประจำปีนั่นเองโดยรวมแล้ว เรียกว่าทุกชาลองประชันความยอดเยี่ยมของผลงานใหม่ในปีนี้แล้ว ยังอวดความงามผ่านการตกแต่งชาลองที่ลงทุนมหาศาลในแต่ละบีด้วย
สล็อต
อย่างที่เกริ่นไว้ว่า งานนี้เป็นงานแสดงแบบไพรเวทคนทั่วไปไม่สามารถเข้าชมได้ ต้องได้รับเชิญเท่านั้นจำนวนผู้เย้าชมจึงมีจำกัดอย่างยิ่ง ไม่เฉพาะ SIHH เท่านั้นที่จำกัดผู้เย้าชม บรรดาแบรนด์ค่ายอิสระที่ไม่ขึ้นกับใคร ต่างก็จัดงานนิทรรศการในแบบไพรเวท รับเฉพาะนัดหมายล่วงหน้าไปทั่วเมืองเจนีวาเช่นเดียวกันอย่างที่โรงแรม Four Season ริมทะเลสาบเจนีวาที่แสนสวย มีแบรนด์มาจัดแสดงผลงานหลายแบรนด์ดังไม่ว่าจะเป็น De Bethune นี่ก็แบรนด์ระดับรางวัล GPHG 2014 ที่พิ่งประกาศผลไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมานำผลงานน่าที่งมานำเสนอ เรียกความตื่นเต้นจากผู้เข้าชมได้เป็นอย่างดี รวมทั้งแบรนด์อิสระน้องใหม่ที่เปิดตัวได้เพียงไม่กี่ปีอย่าง Revelation อวดผลงานนาฬิกาเปลี่ยนหน้าได้ด้วยเทคนิคจากกรกระจกแซพไฟร์ผสานกับการหักเหของแสง บอกได้คำเดียวว่าน่าทึ่งมาก และผลงาน Breva ก็จัดแสดงในโรงแรมแห่งเดียวกัน อวดผลงานนาฬิกาข้อมือที่วัดค่ความสูง ความกดอากาศ และนาฬิทาในปีนี้
พยากรณ์อากาศได้อีกต่างหาก น่าทึ่งไหมล่ะ
ข้ามมาอีกฝั่งในโรงแรม Swisssotel Metropoleมีแบรนด์อิสระของช่างนาฬิกาชาวอังกฤษระดับจีเนียส Peter Speake-Marin ที่นอกจากจะสร้างแบรนด์ของตัวเองด้วยชื่อของตนเองคือ Speake-Marin แล้ว ยังรับจ้างสร้างผลงานให้กับแบรนด์ดังอื่นๆ ด้วย ฝีมือยั้นเทพแบบนี้ ใครๆ ก็ต้องการ
ด้านโรงแรม Beau Rivage ริมทะเลสาบเจนีวา ก็มีแบรนด์อย่าง Urwerk ที่เพิ่งคว้ารางวัลนาฬิกายอดเยี่ยม 2 รางวัลจาก GPHG มาครอง นำผลงานสุดเท่ที่ร่วมมือกับช่างตัดเสื้อระดับโลกมาเผยโฉม และที่โรงแรมนี้ก็ยังมีแบรนด์ชั้นสูงที่สร้างผลงานสุดประณีตอย่าง Bovet จัดงาน 2015 Bovet Salon นำเสนอผลงานสุดขับซ้อนทั้งเทคนิคเชิงช่างด้านกลไก ซึ่งพัฒนาแบบแผนใหม่ของกลไกทูร์บิญอง ที่ช่วยลดความผิดเพี้ยนของแรงโน้มถ่วงโลกจากการพลิกข้อมือไปมา ซึ่งมีผลต่อการทำงานของชุตกลไกที่อยู่ภายในตัวเรือน กลไกนี้เป็นความเก่าแก่ที่สืบทอดมานานกว่า 200 ปี แก้ปัญหาให้กับนาฬิกาพกยุคอดีต มาจนถึงนาฬิกาข้อมือในปัจจุบันแต่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากแบรนด์ต่างๆ มากมาย
ถือเป็นหนึ่งในสุดยอดกลไกที่ชับข้อนที่สุดในโลกด้วยปีนี้ Bovet เลยโซว์ฝีมือพัฒนาทูร์ปิญองใหม่ที่มี
ประสิทธิภาพยอดเยี่ยมกว่าให้กับคอลเลกชั่นรุ่นล่าสุดและสำหรับผู้นัดหมายกับแบรนด์ Bovet ไว้ ทางแบรนด์ก็จะจัดส่งรถแท็กซี่สไตล์อังกฤษมารับและส่งถึงที่ เท่สุดๆ
พูดถึงทูร์บิญองก็ต้องพาข้ามมาอีกฝั่งของเมืองเจนีวา ที่ตั้งของ Watchland ดินแดนที่ให้กำเนิดนาฬิกาแบรนด์ดังอย่าง Franck Muller ปีนี้พัฒนากลไกฑูร์บิญองใหม่ให้มีขนาดใหญ่กว่าเติม น่าจะเป็นกลไกทูร์บิญองที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับนาฬิกาข้อมือในเวลานี้ด้วย ใน Watchland ยังมีแบรนด์น้องๆ ของค่ายนี้จัดแสดงอีกหลายแบรนด์ แต่ที่เด็ดสุดคือ รถที่จะนำผู้นัดหมายเข้าขมผลงานใหม่ มีทั้ง Benz และ Rolls-Royce คอยให้บริการ
แต่ถ้าเป็น MB&F แบรนด์อินตี้ที่มาแรงสุดๆ ด้วยผลงานที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับนักสะสมที่มองหาความแปลกใหม่ ผลงานที่สร้างกันเป็นทีม โดยมีหัวเรือใหญ่คือ แม็กชิมิเลียน บรีชเซอร์ ที่รวมกลุ่มเพื่อนๆฝีมือเยี่ยมมาทำงานร่วมกัน อย่างผลงานลำสุด มีทีมแบ็คอัพหลายสิบชีวิต ร่วมกันสร้าง HM No 6 ในสไตล์อวังกาศ บอกเลยว่ ถ้ำใครอยากได้ต้องเข้าคิวจองเพราะของมีจำนวนจำกัด และฮิตสุดๆ ในกลุ่มนักสะสมที่ชอบงานศิลป์ร่วมสมัยในหลายประเทศ ปีนี้เปิดตัวผลงานใหม่ที่ M.A.D. Gallery โยว์รูมสุดจีาบในเมืองเจนีวา
นอกจากนี้ บรรตาช่างนาฬิกาอิสระอื่นๆ ก็ยังรวมตัวกันนำเสนอผลงานภายในงาน Swiss Independent Watchmaking Pavillon หรือ SIWP จัดขึ้นที่Casino du Lac ปีนี้มีแบรนด์อิสระของย่างนาฬิกาฝีมือเยี่ยม 15 แบรนด์ จัดงานบนพื้นที่ 305 ตารางเมตร แต่คนเข้าชมค่อนข้างน้อยไปนิด เพราะข่าวสารไม่ค่อยถึงกันเท่าไร ผลงานเด่นๆ ก็มีทั้งแบรนด์ยอง Antoine Preziuso นี่ก็ระดับมือพระกาฬ สร้างผลงานขับข้อนมาจำนวนมาก หรือสุดยอดช่างที่คว้ารางวัล The Best Watchmaker จาก GPHG มาครอง อย่าง Vianney Halter ก็มาจัดแสดงผลงานในปีนี้ พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในกลุ่มช่างนาฬิกาอิสระที่น่าสนใจสุดๆด้วย คาดว่าปีหน้าน่าจะมีการจัดงานต่อเนื่องต่อไป 59
